in the future - u will be able to do some more stuff here,,,!! like pat catgirl- i mean um yeah... for now u can only see others's posts :c
เคล็ดลับความสำเร็จของคนระดับปานกลาง
ทำงานที่ไม่มีใครทำ
การรับงานที่ไม่มีใครอยากทำเป็นทางหนึ่งที่ช่วยให้เราโดดเด่นขึ้นมาได้ เช่นในกรณีของผมที่ย้ายมาทำงานในตำแหน่ง investor relation ที่ดีแทค งานนี้ต้องเจอกับนักลงทุนฉลาด ๆ จากทั่วโลก ถามคำถามยาก ๆ ตลอดวัน ทำให้ผมเป็นคนเดียวที่เข้าถึงข้อมูลเชิงลึกและได้พบผู้บริหารระดับสูง ทำให้ผมอยู่ในสายตาของผู้ใหญ่และผูกขาดองค์ความรู้ด้านนี้ไปโดยปริยาย
ทำเกิน
การทำงานเกินความคาดหวังเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เจ้านายจำเราได้ เช่น งานที่เสร็จก่อนเวลาที่เจ้านายอยากได้ หรือการทำงานละเอียดพร้อมข้อมูลที่ครบถ้วนเกินที่เจ้านายคาดหวัง ทำให้เราโดดเด่นและได้รับโอกาสในการแสดงฝีมือ
ทำให้นายเป็นง่อย
การทำงานที่ทำให้นายสะดวกสบายมากที่สุด จะทำให้นายจำนายได้อย่างแม่นยำ เช่น ในการ roadshow กับนักลงทุนต่างประเทศ ผมอาสาดูแลนักลงทุนให้ทั้งหมด ทำให้นายมีเวลาไปทำสิ่งที่ต้องการมากขึ้น เมื่อถึงเวลาประเมินหรือปรับตำแหน่ง นายจะให้ความสำคัญกับเรามากขึ้น
ทำสำเร็จไม่ใช่ทำเสร็จ
การทำงานที่ไม่ใช่แค่ทำให้เสร็จ แต่ทำให้สำเร็จ เช่น การนัดหมายที่ต้องมั่นใจว่าอีกฝ่ายตอบรับและสามารถเจอกันได้จริง ไม่ใช่แค่ส่งอีเมล์ไปแล้วถือว่าจบ ทำให้เจ้านายมั่นใจในความสามารถของเราและพร้อมสนับสนุนให้โอกาส
ทำอะไรไม่รู้แต่ยกมือไว้ก่อน
การยกมืออาสารับงานที่ไม่มีใครทำ เช่น ในกรณีของคุณตัน ภาสกรนที ที่ยกมือรับงานขี่มอเตอร์ไซด์ไปขายของแม้ขี่มอเตอร์ไซด์ไม่เป็น แต่ยอมรับความเสี่ยงและหัดขี่จนได้โอกาสเติบโตในสายงาน ทำให้เรามีโอกาสทำงานใหม่ ๆ และเรียนรู้ประสบการณ์ที่หลากหลาย
การเลือกทางที่ยากกว่าคนอื่น การทำงานที่เกินความคาดหวัง การอาสาทำงานที่ไม่มีใครทำ และการทำงานให้สำเร็จไม่ใช่แค่เสร็จ เป็นเคล็ดลับที่ทำให้คนระดับปานกลางสามารถโดดเด่นและเติบโตในสายงานได้ในยุคที่แข่งขันสูงนี้
ข้อคิดเพิ่มเติม
- โชคและจังหวะที่เหมาะสมมีส่วนสำคัญในการเติบโต
- การมีเพื่อนร่วมงานที่ดีและการสนับสนุนจากคนรอบข้างช่วยให้เราประสบความสำเร็จ
- การเลือกทางที่ท้าทายและพยายามทำให้ดีที่สุดเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการโดดเด่นในสายงาน
การปรับตัวและพยายามหาทางที่ยากกว่าคนอื่น รวมถึงการทำงานด้วยความตั้งใจและเต็มใจ จะทำให้เราโดดเด่นและมีโอกาสเติบโตในสายงานได้อย่างรวดเร็ว
#ลุงสักชวนเครียด
3 - 0
ต้นแบบการทำงานที่ขยายตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีโคลนนิ่งทีมงานของ มิสเตอร์บีส
1. การคัดเลือกทีมงาน
- **คุณสมบัติที่สำคัญ**: ต้องมีความคิดสร้างสรรค์, ทำงานเป็นทีมได้ดี, มีความมุ่งมั่นและอดทน
- **กระบวนการสัมภาษณ์**: ใช้การสัมภาษณ์หลายขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าผู้สมัครมีคุณสมบัติที่ตรงกับที่ต้องการ
2. การฝึกอบรม
- **การฝึกอบรมเบื้องต้น**: จัดให้มีการฝึกอบรมเบื้องต้นที่ครอบคลุมทุกด้านของการผลิตเนื้อหา
- **การพัฒนาทักษะ**: ส่งเสริมการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง เช่น การตัดต่อวิดีโอ, การออกแบบกราฟิก, การเขียนบท
3. การสร้างวัฒนธรรมองค์กร
- **วัฒนธรรมองค์กรที่เน้นความสร้างสรรค์**: ส่งเสริมการคิดนอกกรอบและให้ความสำคัญกับไอเดียใหม่ๆ
- **การสนับสนุนและการตอบแทน**: ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนทีมงานและมีระบบการตอบแทนที่ยุติธรรม
4. การใช้เทคโนโลยี
- **เครื่องมือที่ทันสมัย**: ใช้เครื่องมือและซอฟต์แวร์ที่ทันสมัยในการผลิตเนื้อหา
- **การทำงานร่วมกันผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์**: ใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ในการประสานงานและแชร์ไฟล์
## 5. การประเมินผลและการปรับปรุง
- **การประเมินผลการทำงาน**: มีการประเมินผลการทำงานเป็นระยะๆ เพื่อให้มั่นใจว่าทีมงานยังคงทำงานได้ดี
- **การปรับปรุงกระบวนการ**: นำผลการประเมินมาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน
- MrBeast team cloning
- How to build a creative team
- Team management strategies
- Successful YouTube team
- Video production team tips
- MrBeast
- Team building
- Content creation
- Creative team training
- YouTube success tips
https://youtu.be/c7BLUlbJMGE?si=kbXYI...
#ลุงสัก ชวนเครียด
1 - 0
▪️▪️ความลับของความสำเร็จ: จิตวิทยาการทำให้คนอื่นมีความสุข
**บทนำ:**
ความสำเร็จและความร่ำรวยไม่ได้มาจากเพียงแค่การทำงานหนักเพียงอย่างเดียว แต่ยังเกี่ยวข้องกับการทำให้คนอื่นมีความสุขด้วย เราจะมาดูตัวอย่างจากบุคคลที่มีชื่อเสียงในวงการบันเทิงของไทย ได้แก่ หม่ำ จ๊กม๊ก, โน้ต อุดม, และ เสก โลโซ ที่ประสบความสำเร็จเพราะพวกเขาทำให้คนอื่นมีความสุข
**หม่ำ จ๊กม๊ก:**
หม่ำ จ๊กม๊ก เป็นนักแสดงตลกที่ทำให้คนทั้งประเทศหัวเราะและมีความสุขจากมุขตลกและการแสดงของเขา ความสำเร็จและความร่ำรวยของเขามาจากการที่เขาสามารถทำให้คนอื่นมีความสุข มีบ้านราคาหลายสิบล้านบาท และชีวิตที่ประสบความสำเร็จ
**โน้ต อุดม:**
โน้ต อุดม ทำเดี่ยวไมโครโฟน ที่มีผู้คนมากมายชื่นชอบและต่อคิวซื้อตั๋วทุกครั้งที่จัดการแสดง บัตรที่ราคา 5000 บาทขายหมดเกลี้ยงในพริบตา ชีวิตของเขามีความสุขและร่ำรวยเพราะความสามารถในการทำให้ผู้ชมมีความสุข
**เสก โลโซ:**
เสก โลโซ นักร้องเพลง 'ใจสั่งมา' ที่คนทั้งประเทศชอบและร้องได้ เสกได้รับความประทับใจจากผู้คนมากมาย ทำให้เขาร่ำรวยมีเงินเป็นร้อยล้าน มีบ้านและรถหลายล้านบาท
**ความลับของความสำเร็จ:**
จากตัวอย่างของหม่ำ จ๊กม๊ก, โน้ต อุดม, และ เสก โลโซ เราเห็นได้ชัดว่า คนที่ทำให้คนอื่นมีความสุขและพอใจจะร่ำรวยและประสบความสำเร็จทุกคน หากเราต้องการที่จะร่ำรวยและประสบความสำเร็จ เราต้องทำให้คนอื่นมีความสุขเสียก่อน
**จิตวิทยาการทำให้คนอื่นมีความสุข:**
1. **เข้าใจความต้องการของผู้อื่น:** การเข้าใจและตอบสนองความต้องการของผู้อื่นจะทำให้เราสามารถสร้างความสุขให้กับพวกเขาได้
2. **มีทัศนคติที่ดีและเป็นมิตร:** การมีทัศนคติที่ดีและเป็นมิตรช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีและทำให้คนรอบข้างรู้สึกดี
3. **ความจริงใจ:** การทำสิ่งต่าง ๆ ด้วยความจริงใจทำให้คนอื่นรู้สึกถึงความจริงใจและไว้วางใจ
4. **การให้โดยไม่หวังผลตอบแทน:** การให้ความสุขและความพอใจแก่ผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนจะทำให้เรารู้สึกมีความสุขมากขึ้น
👇👇👇👇
ความลับของความสำเร็จคือการทำให้คนอื่นมีความสุข ไม่ว่าจะเป็นการทำงานในร้านค้า การแสดง หรือการร้องเพลง หากเราสามารถทำให้คนอื่นพอใจและมีความสุข เราก็จะได้รับผลตอบแทนเป็นความร่ำรวยและความสำเร็จในชีวิต ขอขอบคุณบทความดีๆจาก สิริทัศน์ สมเสงี่ยม
#ฮอยรังสตูดิโอ
3 - 0
@ใน3ก๊ก ภาพนี้ตราตรึงใจ ผมมาก เป็นภาพที่ โจโฉ ตามมาส่ง กวนอู ที่ตนอยากได้มาเป็นพวกมากๆ ซึ่งกวนอู่ เวลานั้นทัพแตกได้พลัดพราก จากพี่น้อง ร่วมสาบาน ที่ไม่รู่ว่า พี่น้อง ร่วมสาบาน เล่าปี่ และ เตียวหุย ตายหรืออยู่
@โจโฉซึ่งเวลานั้นใหญ่โตมากๆได้เปรียบแต่ จับ กวนอู โดยไม่ฆ่า และด้วยเคารพ ในความกล้าหาญ จงรัก ชายชื่อ กวนอู คนนี้มากๆ โจโฉ แสดงออกตรงๆ ว่าอยากได้กวนอู มาเป็นพวก อยู่ด้วย
@และด้วยความที่ โจโฉ ทำดีต่อ กวนอู จนเริ่ม รู้สึกดี จึงตัดสินใจ ร่วมงานกับโจโฉ ในหนึ่ง ก็เพื่อ หาข่าว พี่น้องสองคน ที่หายไปอยู่หรือตาย อยู่ที่ไหน
@แต่โจโฉ ก็ซื้อใจ กวนอู ไม่หยุด เขาได้มอบม้าเซ็กเทาที่เดิม เป็นของ ลิโป้ ให้ กวนอู อย่างที่ทราบ ม้าดี คือสมบัติล้ำค่า นักรบ แต่ โจโฉ ไม่เสียดายเลย เพราะศรัทธากวนอู มากในหนึ่งนี้ล่ะคือไม้เด็ด กวนอูมาเป็นพวก
@แต่ไม่เลย ในใจกวนอู ผู้จงรัก ยังคงคิดถึงแต่ท่านพี่ เล่าปี่ และ น้องชาย ร่วมสาบานเตียวหุย เรื่องนี้ โจโฉก็ทราบดี ว่าถ้าหาก กวนอู รู้ว่าเล่าปี่ เตียวหุย ยังอยู่ ก็คงจาก แต่เพราะความรักที่กวนอูมีต่อเล่าปี่ เตียวหุยนี้ล่ะ ที่โจโฉ ก็ศรัทธา ถ้าทรยศพี่น้องไม่แน่อาจถูกฆ่าทิ้ง
@ก็เป็นเช่นนั้น เมื่อกวนอู ทราบว่าเล่าปี่ เตียวหุย ยังมีชีวิต ก็ได้ เข้าอำลา โจโฉ เวลานั้นโจโฉจะรั้งอย่างไร กวนอู ก็จะไป ก่อนออกเดินทาง โจโฉผู้ยิ่งใหญ่ จึงขอมาส่งด้วยตัวเอง และได้เดินเอาผ้าคลุมตัวมาให้ เดี๋ยวจะหนาวผูกเชือกผ้าคลุมตัวเสร็จ ก็ก้มผูกเชือก รองเท้าให้"กวนอู"ตามภาพ
@เวลานั้น ใครดูก็อดห่วง กวนอู ไม่ได้ หมอนี้มาไม้ไหนว่ะ แต่ภายหลังจึงเป็นภาพที่ประทับใจ ในความทรงจำ กวนอู นี้ล่ะ คือ1เดียวจริงๆที่ โจโฉก้มหัวให้
@จากนั้นโจโฉ ก็ปล่อย กวนอู ไปพร้อมกับม้าเซ็กเทา แต่ด้วยที่ โจโฉ ก็ยังทำใจที่เสียกวนอูไป ไม่ได้ จึงไม่ได้ ให้ตั๋วผ่าน ด่าน ที่ตนต้องสั่งการให้ไป
@เมื่อกวนอู ต้องผ่านด่าน ทหารตามหน้าที่ก็ต้องขอดูตั๋ว พอไม่มีตั๋ว ทหารของโจโฉไม่ให้ผ่านไม่ได้ กวนอู จึงเอ่ยปากขอดีๆ ก็ไม่ได้ ก็ตีฝ่าไป ฆ่าทหารของโจโฉตายไปทุกด่าน จนมีทหารตาย มากมาย
@โจโฉ เองก็ทราบดี ว่าใครก็ขวางกวนอูไม่ได้ จนคิดว่าสุดจะรั้งแล้ว เริ่มทำใจได้ จงมีคำสั่งว่า ให้ปล่อยกวนอูไป ตามทาง แต่โดยดี
@และนี้คือสิ่ง ที่ผม จดจำ เคารพโจโฉ ในฐานะ คนไม่ดีเลย เพียงไม่กี่เรื่อง ที่เขาทำ ผมเคารพตรง คนเรา มันต้องใจนักเลง แบบนี้
@เมื่อเป็นใหญ่ ใช่ก้มหัวให้ใครเขาไม่เป็นเลย มันต้องมีจุดที่ตนเอง ไม่มีปัญญาทำได้ และไปไม่ถึง กันทุกคน
@เมื่อเจอ!คนที่เขามีสิ่งดีกว่านั้น ต้องกล้าที่จะเคารพ ศรัทธาสิ่งนั้น ด้วยความจริงใจ โดยไม่ทำลาย ให้ย่อยยับ เพราะกลัวเขาจะดีกว่าเทียบชั้น เหนือตัว จึงจะเรียกว่าผู้ยิ่งใหญ่ ตัวจริง จบข่าว
#ลุงสักชวนเครียด
4 - 0
🙏กราบเรียนเชิญเพื่อนๆและญาติมิตร
ทุกท่านมาร่วมฉลอง และเป็นเกียรติ
🎉เนื่องในโอกาสฉลองถูกรางวัลที่ 1 🎊(ชุด 10 ใบ)🎉🌟✨️🎊รวมเป็นเงิน 60 ล้านบาท
💕💞กำหนดการและเวลาไว้ดังนี้
เวลา 07.00 น. ทำบุญเลี้ยงเด็กกำพร้า 500 คน
เวลา 09.00 น. แจกเงินนักเรียนคนละ 5,000 บาท
เวลา 16.00 น. เลี้ยงโต๊ะจีน 500 โต๊ะ
🔥ฟรีคอนเสิร์ต 5 วัน 5 คืน เริ่ม 19.00-24.00🔥
👍คืนที่ 1 เสก โลโซ + ปู พงษ์สิทธิ์
👍คืนที่ 2 ลำไย ไหทองคำ ประชัน เทย์เลอร์ สวิฟต์
👍คืนที่ 3 ซิลลี่ฟูลเต็มวง + โคโยตี้ แสง สี เสียง
👍คืนที่ 4 ทาทายัง มอส ปฎิภาณ เต๋า สมชาย
👍คืนที่ 5 รวมนักร้อง RS 90 ยกทีมมาครบทุกคน
👌เวลา 20.00 น. แจกเงิน+ทอง ผู้มาร่วมงาน เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 1,000,000 บาท
หมายเหตุ วัน เดือน ปี จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง เพราะไม่รู้ว่าจะถูกเมื่อไหร่ จึงแจ้งไว้ก่อนล่วงหน้าเฉยๆ 🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣🤣😂😂😂😂😂😂😂
#เรื่องเพ้อเจ้อ
3 - 2
เวนิส สร้างอยู่บนน้ำได้ด้วยวิธีตอกเข็มไม้ เหมือน กรุงเทพ
เวนิส ซึ่งมักเรียกกันว่า "เมืองลอยน้ำ" คือสิ่งมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมที่สร้างขึ้นบนทะเลสาบ อาคารต่างๆ ของเมืองตั้งตระหง่านอยู่บนน้ำด้วยการผสมผสานระหว่างเทคนิคการก่อสร้างอันล้ำสมัยและสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ ต่อไปนี้เป็นคำอธิบายโดยละเอียดว่าอาคารต่างๆ ของเวนิสจัดการให้ลอยน้ำได้อย่างไร:
### ฐานรากและเทคนิคการก่อสร้าง
1. **เสาเข็มไม้**:
- รากฐานของอาคารต่างๆ ในเวนิสประกอบด้วยเสาไม้นับล้านต้น ที่ตอกลึกลงไปในพื้นดิน โดยทั่วไปเสาเข็มเหล่านี้ทำจากไม้ทนน้ำ เช่น ออลเดอร์ โอ๊ค และต้นสนชนิดหนึ่ง[1][2][4][7]
- เสาเข็มจะถูกตอกผ่านชั้นตะกอนและโคลนจนกระทั่งถึงชั้นดินเหนียวที่มั่นคงมากขึ้น ชั้นดินเหนียวนี้เป็นฐานที่มั่นคงที่สามารถรองรับน้ำหนักของอาคารได้[2][4][7]
2. **กระบวนการกลายเป็นหิน**:
- เสาเข็มไม้ไม่เน่าเปื่อยเนื่องจากจมอยู่ในน้ำ ซึ่งปราศจากออกซิเจน การขาดออกซิเจนนี้จะป้องกันการผุพังและช่วยให้ไม้ผ่านกระบวนการทำให้เป็นแร่ ทำให้ไม้กลายเป็นสสารคล้ายหินได้อย่างมีประสิทธิภาพ[2][4][10][12]
3. **แพลตฟอร์มและชั้นหิน**:
- บนกองไม้มีแท่นไม้วางอยู่ จากนั้นแท่นนี้ถูกปกคลุมไปด้วยหินหลายชั้น ซึ่งโดยทั่วไปคือหินปูนอิสเตรียน ซึ่งทนทานต่อการกัดเซาะ[1][4][10][12]
- ตัวอาคารสร้างด้วยอิฐและหิน โดยส่วนล่างมักปูด้วยหินอิสเตรียน เพื่อป้องกันการกัดกร่อนของน้ำในทะเลสาบเค็ม[10] [12]
โดยสรุป อาคารต่างๆ ของเวนิสตั้งอยู่บนน้ำได้เนื่องจากการผสมผสานระหว่างฐานเสาเข็มไม้ กระบวนการทำให้กลายเป็นหิน การใช้วัสดุอย่างมีกลยุทธ์ เช่น หินอิสเตรียน และความพยายามในการบำรุงรักษาอย่างต่อเนื่อง วิธีการก่อสร้างอันชาญฉลาดนี้ทำให้เวนิสสามารถดำรงอยู่ได้เป็นเวลาหลายศตวรรษ แม้ว่าจะต้องเผชิญความท้าทายจากสภาพแวดล้อมทางน้ำก็ตาม
**** ทุกเช้าวันจันทร์พบกับเรื่องราวน่าสนใจในวงการก่อสร้าง  ในชุด“เปิดสมองมองก่อสร้าง” ค้นหานำมาเสนอเป็นประจำโดยอาจารย์ต่อ
#rengperjer
#ลุงสักชวนเครีย
4 - 0
จากสุกี้ตี๋น้อย สู่ GENTLEWOMAN สร้างธุรกิจ 10,000 ล้าน ได้ในรุ่นเดียว /โดย ลงทุนแมน
ผู้หญิงอายุน้อย สร้างธุรกิจให้มีมูลค่าเป็น 10,000 ล้านใน Generation เดียว
ถ้าเป็นในยุคก่อนแล้ว สำหรับประเทศไทย ก็คงดูเป็นเรื่องชวนเพ้อฝัน
- สุกี้ตี๋น้อย ขยายสาขาเป็นว่าเล่น ปีล่าสุดกำไร 907 ล้านบาท
- GENTLEWOMAN แบรนด์ยอดฮิตของนักท่องเที่ยว ปีล่าสุดกำไร 525 ล้านบาท
ประเทศไทยเฝ้าหา ผู้ประกอบการ STARTUP ที่จะเป็นยูนิคอร์น
ทุกคนมุ่งเป้าไปที่ธุรกิจเทคโนโลยี จะได้สเกลเร็ว ๆ
แต่ผลปรากฏว่า บริษัท TECH STARTUP ของไทยส่วนใหญ่ ไปไม่รอด และมีน้อยมากที่ก้าวไปถึงบริษัทที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน
ในขณะที่ทุกคนท้อแท้ มีบริษัทหน้าใหม่อยู่กลุ่มหนึ่ง ที่เพิ่งก่อตั้งขึ้นมาได้ไม่นาน กำลังแข่งกันเติบโต
บริษัทกลุ่มนี้ขายสิ่งเดิม ๆ เช่น อาหาร เสื้อผ้า
ถึงจะไม่ได้ทำธุรกิจเทคโนโลยีที่ดู Sexy แต่ก็ประสบความสำเร็จ ผู้คนนิยมกัน
มีหลายบริษัทในกลุ่มนี้ก่อตั้งได้ไม่ถึง 10 ปี แต่ก็มีแววที่จะเป็นบริษัทมูลค่าระดับหมื่นล้านได้..
ภาพจำเศรษฐกิจไทยของใครหลายคน พูดกันว่าเติบโตช้า บริษัทไม่ไปไหน ย่ำอยู่กับที่ มาเป็นสิบปี..
แต่จริง ๆ แล้ว ประเทศไทย มีบริษัทเติบโตเร็วซ่อนอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะบริษัทหน้าใหม่นอกตลาดหุ้น..
หากพูดถึงบริษัท มูลค่า 10,000 ล้านบาท
ถ้าวัดกันโดยไม่ได้สนใจเลยว่า ทำธุรกิจอะไร
ก็คงต้องเป็นบริษัท ที่ผลิตกำไรได้อย่างน้อย 500 ล้านบาท ขึ้นไป
ถามว่าทำไมต้องกำไรเท่านี้ ?
นั่นก็เพราะว่าใช้หลักการคำนวณหามูลค่าบริษัทอย่างง่าย ซึ่งมาจาก กำไรทั้งหมด คูณกับ P/E ซึ่งค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัททั้งหมดในตลาดหุ้นไทย ณ ตอนนื้อยู่ที่ 17 เท่า
ซึ่งถ้าให้คำนวณอย่างง่าย กำไร 500 ล้าน x P/E 20 เท่า ก็จะเป็น 10,000 ล้านบาท พอดี..
ยกตัวอย่างบริษัทมูลค่า ระดับ 10,000 ล้านในตลาดหุ้นไทย
-MAJOR ทำธุรกิจโรงหนัง
มูลค่าบริษัท 10,600 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 1,041 ล้านบาท
P/E 10 เท่า
เรามาดูธุรกิจ “สุกี้ตี๋น้อย”
บริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด ก่อตั้งโดยมาเพียง 7 ปี ผลประกอบการ 3 ปีล่าสุด
ปี 2564 รายได้ 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 5,262 ล้านบาท กำไร 907 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 83%
กำไรเติบโตเฉลี่ย 148%
จะเห็นว่าสุกี้ตี๋น้อย ก่อตั้งมา 7 ปี ตอนนี้มีกำไรใกล้เคียงโรงหนัง MAJOR ที่ก่อตั้งมาแล้ว 29 ปี ซึ่งถ้าให้มูลค่าเท่า MAJOR สุกี้ตี๋น้อยก็จะมีมูลค่าหลักหมื่นล้านบาท
หาก P/E 20 เท่า สุกี้ตี๋น้อย ก็จะมีมูลค่าบริษัทราว 18,000 ล้านบาท.
ต่อมาเป็นธุรกิจเสื้อผ้า
-SABINA อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ทำธุรกิจขายชุดชั้นใน
มูลค่าบริษัท 8,900 ล้านบาท
ปี 2566 มีกำไร 463 ล้านบาท
P/E 19 เท่า
เจ้าของแบรนด์ GENTLEWOMAN
บริษัท เจนเทิลวูแมน จำกัด ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2561 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน มีผลประกอบการ 3 ปีล่าสุด
ปี 2564 รายได้ 168 ล้านบาท กำไร 32 ล้านบาท
ปี 2565 รายได้ 594 ล้านบาท กำไร 184 ล้านบาท
ปี 2566 รายได้ 1,507 ล้านบาท กำไร 525 ล้านบาท
รายได้เติบโตเฉลี่ย 200%
กำไรเติบโตเฉลี่ย 305%..
จะเห็นว่า GENTLEWOMAN ก่อตั้งมา 6 ปี ตอนนี้มีกำไรใกล้เคียง SABINA ที่ก่อตั้งมาแล้ว 29 ปี..
หาก P/E 20 เท่า GENTLEWOMAN ก็จะมีมูลค่าบริษัทราว 10,000 ล้านบาท
จากตรงนี้ จะเห็นได้ชัดว่าทั้ง 2 บริษัท
อายุยังไม่ถึง 10 ปี แต่กลับเติบโตแบบก้าวกระโดด
และผลิตกำไร ชนิดที่เทียบชั้นกับบริษัทในตลาดหุ้นไทย กันได้แล้ว
จริง ๆ แล้ว ในประเทศไทย มีบริษัทที่คล้ายแบบนี้อีกเป็น 10 บริษัท ที่กำลังเติบโตแรงไม่แพ้กัน ไว้ลงทุนแมนจะพูดถึงในคราวต่อ ๆ ไป
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ฟาดหน้าคนที่บอกว่า เศรษฐกิจไทยไม่โตแล้ว เราทำธุรกิจอะไรไม่ได้
เมื่อดูเหล่าบริษัทหน้าใหม่ที่ก้าวขึ้นมา
จะเห็นได้ชัดว่าโอกาส ยังมีอยู่เสมอ
อยู่ที่ตัวเราเองมากกว่า ว่าเราจะมองเห็นโอกาสหรือไม่
ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เราตระหนักได้ว่า ธุรกิจที่สำเร็จไม่จำเป็นต้องเป็นบริษัทเทคโนโลยีที่ต้องมีความรู้เขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน
ไม่ต้องยอมขาดทุน ทุ่มตลาดเพื่อให้ได้ User แล้วค่อยทำกำไรทีหลัง
เพราะจากตัวอย่างที่ยกมา
ไม่ว่าจะธุรกิจขายสุกี้ ขายเสื้อผ้า กระเป๋า
ก็ดูจะเป็นธุรกิจเข้าใจง่าย ที่ไม่ได้แปลกใหม่อะไร แต่ตลาดนั้นมีขนาดใหญ่พอ ที่พร้อมจะให้แบรนด์ใหม่ไปแย่งผู้เล่นเดิม
ซึ่งก็อาจจะเป็น DNA ของตัวผู้ก่อตั้งเองด้วย ที่สร้างแบรนด์ หาจุดเด่น หาช่องว่างตลาด และสามารถนำมาตอบโจทย์ลูกค้าได้สำเร็จ
เรื่องราวของสุกี้ตี๋น้อย สู่ GENTLEWOMAN คงเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ เห็นตัวอย่างความสำเร็จว่ามันยังเป็นจริงได้ในยุคนี้
ที่สร้างธุรกิจ มูลค่า 10,000 ล้าน ได้ในรุ่นเดียว..
ที่มา ลงทุนแมน
4 - 0
คือสัญญาที่ให้ไปมันต้องทำให้ได้
... ลูกพยยามแล้ว พ่อหาข้ออ้าง ใครเป็นบ้าง แอดคนนึงแหละก็ทั้งเคยได้
...อารมณ์ ตอนเป็นลูก เหมือนแบบนี้เลย
...ตอนนี้มาเป็นพ่อ ก็เหมือนแบบนี้อีก
✅ วงจรอดอยาก ✅
ใครเป็นแบบนี้บ้าง
ภาพ คาราโอเกะชั้นใต้ดิน
#ฮอยรังสตูดิโอ
#เรื่องเพ้อเจ้อ
3 - 0
วิเคราะห์สาเหตุของแนวคิด "ใส่ยีนส์ 10 ครั้งค่อยซัก":
1. ความตระหนักด้านสิ่งแวดล้อม - แบรนด์ลีวายส์และผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติมากขึ้น เนื่องจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจากอุตสาหกรรมแฟชั่น
2. ต้นทุนการผลิตที่สูง - การผลิตยีนส์ต้องใช้น้ำและพลังงานจำนวนมาก ซึ่งส่งผลต่อต้นทุนการผลิตและราคาสินค้า
3. การยืดอายุการใช้งานสินค้า - การซักยีนส์น้อยลงช่วยรักษาสีสันและคุณภาพของเนื้อผ้า ทำให้ผู้บริโภคใช้สินค้าได้นานขึ้น
4. กระแสการบริโภคอย่างยั่งยืน - ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับการบริโภคอย่างรับผิดชอบและยั่งยืนมากขึ้น สอดคล้องกับแนวคิดนี้
ผลกระทบทางการตลาด:
1. ภาพลักษณ์แบรนด์ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม - ลีวายส์วางตำแหน่งแบรนด์เป็นแฟชั่นที่ยั่งยืน สร้างการรับรู้ในวงกว้าง
2. การสร้างความผูกพันกับลูกค้า - ลูกค้าที่มีแนวคิดเดียวกันจะรู้สึกผูกพันและภักดีต่อแบรนด์มากขึ้น
3. โอกาสในตลาดใหม่ - เจาะกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และขยายฐานไปยังผู้บริโภคกลุ่มอื่น ๆ
4. การสร้างกระแสการบริโภคแบบใหม่ - เป็นผู้นำและสร้างการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการซื้อและการใช้สินค้าแฟชั่นให้ยั่งยืนมากขึ้น
5. เพิ่มยอดขายในระยะยาว - ถึงแม้ผู้บริโภคจะซื้อสินค้าน้อยลง แต่จะใช้สินค้านานขึ้น ส่งผลดีต่อความภักดีและการบอกต่อ
กล่าวโดยสรุป การสร้างความตระหนักและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคด้วยแนวคิดนี้ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความได้เปรียบในการแข่งขันให้แบรนด์ในระยะยาว แม้อาจกระทบยอดขายในระยะสั้น แต่เป็นการวางรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนต่อไปในอนาคต
#ฮอยรังสตูดิโอ
#ลุงสักชวนเครียด
#เรื่องเพ้อเจ้อ
2 - 0